สรรพคุณของรากขึ้นฉ่ายและข้อห้ามในการใช้

แม้ว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามและยาจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่หลายคนก็ยังคงนิยมวิธีการรักษาและวิธีพื้นบ้านที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงรากขึ้นฉ่าย ได้รับความนิยมอย่างมาก วันนี้เราจะมาสำรวจสรรพคุณและข้อห้ามของรากขึ้นฉ่ายกัน

องค์ประกอบทางเคมีและคุณค่าทางโภชนาการของผัก

รากขึ้นฉ่ายขึ้นชื่อเรื่ององค์ประกอบทางชีวเคมีอันอุดมสมบูรณ์ อุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E, K, PP, B1, B2, B5, B6 และ B9 การรับประทานรากขึ้นฉ่ายจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารทั้งจุลธาตุและมหธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รากขึ้นฉ่ายประกอบด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ทองแดง แมงกานีส เหล็ก ซีลีเนียม ฟลูออรีน และสังกะสี น้ำมันหอมระเหยของรากขึ้นฉ่ายให้กลิ่นหอมฉุนยาวนาน

สรรพคุณและประโยชน์ทางยาของราก

คุณค่าทางโภชนาการของรากขึ้นฉ่ายมีเพียง 32 กิโลแคลอรีต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม ไขมันมีน้อยมาก ไม่เกิน 0.3 กรัม ส่วนที่รับประทานได้ของราก 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำ 87.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม โปรตีน 1.3 กรัม ใยอาหาร 3.1 กรัม กรดอินทรีย์ 0.1 กรัม และแป้งและเถ้าอย่างละ 1 กรัม

วิดีโอ: "ประโยชน์ต่อสุขภาพของขึ้นฉ่าย"

วิดีโอนี้จะนำเสนอสูตรอาหารที่มีประโยชน์หลายประการสำหรับการใช้ผักราก

สรรพคุณและประโยชน์ทางยาของราก

ขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์ต้านอาการแพ้ ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อ บำรุงร่างกาย และเป็นยาระบาย การรับประทานผักรากชนิดนี้ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว การมองเห็น และบำรุงเส้นผมและเล็บ การรับประทานผักชนิดนี้เป็นประจำยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย

สำหรับผู้หญิง

ขึ้นฉ่ายช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและช่วยให้รอบเดือนกลับมาเป็นปกติ การบริโภคผักชนิดนี้ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำจะส่งผลดีต่อระบบสืบพันธุ์

ผู้หญิงรายงานว่าอารมณ์แปรปรวนลดลง ทนต่อความเครียดได้ดีขึ้น และนอนหลับสบายมากขึ้น การทารากผมแบบทาเฉพาะที่ช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ชาย

รากขึ้นฉ่ายมีสารแอนโดรสเตอโรน ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ฮอร์โมนเพศชายนี้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางเพศทุติยภูมิ นอกจากนี้ รากขึ้นฉ่ายยังใช้ป้องกันและรักษาโรคต่อมลูกหมากอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และโรคไตและโรคตับ

การใช้ประโยชน์จากรากขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายเป็นพืชที่ขาดไม่ได้ไม่เพียงแต่ในการปรุงอาหารและโภชนาการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในยาทางเลือกและความงามสมัยใหม่ด้วย

การทำอาหาร

รากขึ้นฉ่ายสามารถรับประทานสดได้ สลัดผักรวมที่ผสมแอปเปิลและแครอทเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ น้ำขึ้นฉ่ายคั้นสดผสมกับน้ำส้ม แอปเปิล แครอท หรือแตงกวา ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน

รากที่มีกลิ่นหอมนี้จะถูกนำมาใส่ในแยมฤดูหนาว ขึ้นฉ่ายต้มสามารถนำมาทำซุปครีมที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการได้ สามารถทอด ตุ๋น หรืออบก็ได้ เข้ากันได้ดีกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์และปลา

โภชนาการ

ผลิตภัณฑ์แคลอรีต่ำชนิดนี้มักถูกรวมอยู่ในเมนูอาหารลดน้ำหนัก นักโภชนาการแนะนำให้ดื่มน้ำขึ้นฉ่ายคั้นสดและสลัดที่อุดมไปด้วยวิตามิน ซึ่งช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญ ขึ้นฉ่ายช่วยเพิ่มพลังงานและป้องกันการสะสมไขมัน แม้จะมีแคลอรีต่ำ แต่ผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการชนิดนี้ก็ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นาน ซึ่งส่งผลดีต่อรูปร่างของคุณ

อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรยึดติดกับการกินขึ้นฉ่ายไปตลอดชีวิต การบริโภคผักมากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ ควรทำซ้ำไม่เกิน 1 ครั้งทุก 3-4 เดือน

เสริมสวย

พืชรากชนิดนี้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในด้านความงาม ช่วยปรับสภาพและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ทำความสะอาดรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย และขจัดสารพิษและสารอันตรายอื่นๆ ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ

รากขึ้นฉ่ายใช้ทำมาส์กหน้า

ยาต้มรากขึ้นฉ่าย (ผัก 50 กรัม และน้ำเดือด 400 มล.) นำมาใช้ล้างเครื่องสำอางและทำมาส์กทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย

โลชั่นโทนเนอร์ที่ทำจากน้ำขึ้นฉ่ายช่วยเสริมสร้างเส้นเลือดฝอยเล็กๆ และปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ในการเตรียมโลชั่น ให้ผสมน้ำคั้นสด 40 มล. น้ำแร่ 50 มล. และน้ำมันหอมระเหยส้ม 2-3 หยด

เพื่อป้องกันสิว ให้ใช้มาส์กทำความสะอาดผิวหน้า ผสมรากที่บดแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ กับดินเหนียวเครื่องสำอาง 2 ช้อนชา และน้ำว่านหางจระเข้ 1 ช้อนชา พอกมาส์กลงบนผิวที่สะอาด ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

การแพทย์ทางเลือก

เรานำเสนอสูตรยาแผนโบราณที่มีประโยชน์หลายสูตรโดยใช้พืชราก:

  1. น้ำคั้นรากขึ้นฉ่ายสดช่วยป้องกันการสะสมของเกลือ ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 2 ช้อนชา ก่อนอาหาร 30 นาที ไม่ควรรับประทานเกิน 3 ครั้งต่อวัน
  2. แนะนำให้ชงรากเพื่อป้องกันและรักษาโรคไวรัสและหวัด ผสมรากบด 3-4 กรัม ลงในน้ำเดือด 1 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 8-10 ชั่วโมง กรองเอากากออก แล้วรับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง
  3. แนะนำให้ใช้ขึ้นฉ่ายสำหรับอาการผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ในสตรี เติมน้ำเดือด 250 มล. ลงในขึ้นฉ่ายสับ 50 กรัม เคี่ยวไฟอ่อน 2 นาที พักไว้ให้เย็น และรับประทานได้ตลอดวัน
  4. รากขึ้นฉ่ายแห้งมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการบาดเจ็บจากความเย็นกัด นำรากขึ้นฉ่ายสับ 200 กรัม แช่ในน้ำ 1 ลิตร แล้วเคี่ยวไฟอ่อนประมาณ 10-15 นาที เมื่อเย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องแล้ว นำมาต้มกับบริเวณที่ถูกกัด
การแช่รากขึ้นฉ่ายช่วยต่อสู้กับหวัดได้

อันตรายและข้อห้ามใช้

ไม่มีข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับการบริโภครากขึ้นฉ่าย อย่างไรก็ตาม การบริโภคผักชนิดนี้มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาระบบย่อยอาหารหรือนำไปสู่การเกิดอาการแพ้ได้

เราไม่แนะนำให้กินขึ้นฉ่ายก่อนนอน เพราะจะกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ ซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับได้
คำแนะนำของผู้เขียน

หากคุณมีประวัติโรคต่างๆ เช่น โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตต่ำ โรคหลอดเลือดดำอักเสบ เส้นเลือดขอด หรือโรคลมชัก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์นี้มากเกินไป ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรรับประทานขึ้นฉ่ายในปริมาณน้อย รากของขึ้นฉ่ายอาจทำให้มดลูกหย่อนและส่งผลเสียต่อการผลิตน้ำนม

กฎเกณฑ์การเลือกและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์

เนื่องจากผลิตภัณฑ์สามารถรับประทานสดหรือปรุงสุกได้ คุณจึงต้องรู้วิธีเลือกอย่างถูกต้อง

ผักรากควรดูสดและมีสุขภาพดี ตรวจสอบว่ามีร่องรอยการเน่าเสียและแมลงที่เป็นอันตรายหรือไม่ ใช้นิ้วเคาะผัก หากได้ยินเสียงดัง แสดงว่าอาจมีช่องว่างภายในราก ควรแยกรากดังกล่าวไว้

เลือกผักที่มีขนาดกลางและมีเปลือกเรียบเสมอกัน

เก็บขึ้นฉ่ายไว้ในที่เย็น หากคุณวางแผนที่จะนำไปปรุงในเร็วๆ นี้ คุณสามารถใส่ไว้ในถุงพลาสติกหรือห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหารก็ได้ ส่วนขึ้นฉ่ายรากก็สามารถเก็บแบบแห้งหรือแบบสับได้เช่นกัน

ผักสามารถเก็บไว้ได้ทั้งแบบเป็นลูกหรือแบบสับ

การใช้รากขึ้นฉ่ายเพื่อป้องกันและรักษาอาการต่างๆ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ การใช้ยาเองและใช้รากขึ้นฉ่ายมากเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ลูกแพร์

องุ่น

ราสเบอร์รี่